บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้าเพิ่มความปลอดภัย EMS ส่งด่วน เพิ่มฟีเจอร์ รับประกันในประเทศ สร้างความมั่นใจลูกค้า ส่งของมีค่าปลอดภัยทุกเส้นทางยิ่งขึ้น สำหรับการฝากส่งพัสดุ ที่มีมูลค่าสูง หรือสิ่งของสำคัญ โดยขยายวงเงินประกันคุ้มครองความเสียหาย สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท แนะนำ 5 วิธีการส่งพัสดุยุคใหม่ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ได้แก่ เลือกกล่องหรือซองบรรจุให้เหมาะสม หุ้มห่อสิ่งของด้านในให้แน่นหนา ระบุข้อมูลผู้ส่งและผู้รับให้ชัดเจน ติดตามพัสดุ 24 ชม. รวมถึงตรวจสอบเงื่อนไขการรับฝากและประเภทสิ่งของต้องห้ามก่อนส่ง
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า พฤติกรรมการส่งพัสดุ ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ประกอบการ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มองหาการขนส่งที่รวดเร็วเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และความคุ้มครองในการจัดส่งพัสดุมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าที่ใช้บริการ EMS ส่งด่วนกลุ่มเครื่องประดับ อัญมณี เพชร ทองคำ เครื่องเงิน งานศิลปะ ของขวัญ ของสะสม รวมทั้งกลุ่มของที่มีคุณค่าทางจิตใจ สามารถเพิ่มฟีเจอร์คุ้มครองความปลอดภัย รับประกันในประเทศ ที่เป็นบริการเสริมช่วยให้ผู้ใช้บริการมั่นใจ ส่งของมีค่าปลอดภัยทุกเส้นทางยิ่งขึ้น เพราะสามารถรับการประกันและคุ้มครองพัสดุเพิ่มเติม
โซลูชันนี้ครอบคลุมทั้งกรณีของเสียหาย/ สูญหายหรืออาจประสบเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างขนส่ง เช่น สภาพอากาศแปรปรวน ภัยธรรมชาติ โดยพัสดุทุกชิ้นที่อยู่ในระบบรับประกันในประเทศสามารถติดตามสถานะพัสดุได้แบบเรียลไทม์ ผ่านระบบ Track and Trace จนกว่าจะถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัย
“โดยนอกจากการคุ้มครองสิ่งของที่อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายแล้ว ยังมุ่งใช้โซลูชันดังกล่าว สร้างความน่าเชื่อถือให้กับภาคธุรกิจที่ใช้บริการส่งด่วน EMS ด้วยการเพิ่มมูลค่าแบรนด์ และสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ช่วยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ e-Commerce ร้านค้าออนไลน์ รวมถึงธุรกิจสินค้า Luxury และสินค้าจำเพาะกลุ่ม สามารถนำจุดแข็งด้านการประกันความปลอดภัยนี้ไปใช้ในการเพิ่มคุณภาพการบริการ และสร้างความแตกต่างทางการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การส่งพัสดุและสิ่งของเกิดความปลอดภัยอย่างครอบคลุม ไปรษณีย์ไทยมีข้อแนะนำเกี่ยวกับการส่งพัสดุมาฝาก ดังนี้
