ดีป้า เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ไตรมาส 3/2568 หดตัวจากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ความไม่แน่นอนทางการเมือง ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรดิจิทัลและ AI Disruption และข้อพิพาทพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ขณะที่มาตรการตรึงราคาพลังงาน การขยายตัวของการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และผลการเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ช่วยพยุงสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ ชี้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยหวังให้ภาครัฐเร่งพัฒนากำลังคนดิจิทัล เพื่อเพิ่มศักยภาพภาคธุรกิจ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital Industry Sentiment Index) ไตรมาส 3 และไตรมาส 2 ประจำปี 2568 ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมย่อย ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Hardware and Smart Device) กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software) กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล (Digital Service) กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) และกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecommunication) โดยดัชนีความเชื่อมั่นฯ ไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ระดับ 46.9 ลดลงจาก 47.2 ของไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากปัจจัยด้านผลประกอบการ ด้านปริมาณการผลิตฯ ด้านคำสั่งซื้อฯ ด้านการจ้างงาน และด้านการลงทุนที่ปรับตัวลดลง แต่ในทางกลับกัน ปัจจัยด้านต้นทุนประกอบการปรับตัวดีขึ้น
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ในระดับ ‘ไม่เชื่อมั่น’ อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการหดตัวของภาคการท่องเที่ยว และระดับหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยการแข่งขันช่วงชิงการลงทุนในภูมิภาค ประกอบกับการขาดแคลนบุคลากรดิจิทัลและ AI Disruption ที่ส่งผลต่อศักยภาพของภาคเอกชน รวมไปถึงความไม่มั่นใจในความต่อเนื่องของนโยบายรัฐบาล และข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุน อย่างไรก็ตาม มาตรการตรึงราคาพลังงานและการขยายตัวของการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงผลสรุปการเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกาสามารถช่วยคลี่คลายความกังวลของผู้ประกอบการ
หากแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรมพบว่า ไตรมาส 3/2568 มีหนึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีดัชนีความเชื่อมั่นฯ สูงกว่าระดับ 50 ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ โดยมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ระดับ 52.7 ส่วนอีก 4 กลุ่มอุตสาหกรรมมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ ต่ำกว่า 50 ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ มีดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ระดับ 39.0 กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล อยู่ที่ระดับ 48.1 กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ อยู่ที่ระดับ 46.8 และกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม อยู่ที่ระดับ 46.5 ขณะที่ไตรมาส 2/2568 มี 2 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีดัชนีความเชื่อมั่นฯ สูงกว่าระดับ 50 ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ โดยมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ระดับ 52.3 และกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม อยู่ที่ระดับ 51.8 ส่วนอีกสามกลุ่มอุตสาหกรรมมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ ต่ำกว่าระดับ 50 ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ อยู่ที่ระดับ 38.5 กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล อยู่ที่ระดับ 48.1 และกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ อยู่ที่ระดับ 46.4
“ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยคาดหวังให้ภาครัฐเร่งพัฒนากำลังคนดิจิทัลภายในประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาสภาวะขาดแคลนบุคลากรดิจิทัล พร้อมส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโต อีกทั้งเพิ่มศักยภาพกลุ่มธุรกิจ SMEs ให้ปรับตัวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างเศรษฐกิจโลก พร้อมส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด และการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ”