ไปรษณีย์ไทย หนุนพี่ไปรฯ ทั่วไทย ส่งต่อความรู้การขับขี่ปลอดภัยถึงหน้าบ้าน สร้างพฤติกรรมใหม่ในการใช้รถใช้ถนนให้เซฟตี้

     บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้าส่งต่อความรู้การขับขี่ปลอดภัยภายใต้แคมเปญ “เพื่อนแท้ร่วมทาง Road Safety” อย่างต่อเนื่อง ผลักดันบุรุษไปรษณีย์ทั่วประเทศกว่า 20,000 คน ที่ผ่านการอบรมถ่ายทอดความรู้ให้ผู้ใช้บริการและภาคประชาชนด้วยแผ่นพับรณรงค์ จำนวน 200,000 แผ่น ส่งไปพร้อมกับจดหมาย – พัสดุฯ เพื่อแนะนำให้ลูกค้า- ประชาชนให้ความสำคัญการขับขี่ที่ปลอดภัยขึ้น พร้อมกันนี้ ยังผลักดันให้เจ้าหน้าที่ของไปรษณีย์ไทยมีแนวปฏิบัติและวินัยจราจรอย่างเคร่งครัดเช่นการสวมหมวกนิรภัยตลอดการปฏิบัติงานไม่ใช้ความเร็วเกินกำหนดทดสอบและทบทวนความรู้โดยสถาบันขนส่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง

     ดร. ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย สนับสนุนการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนผ่านโครงการ “เพื่อนแท้ร่วมทาง Road Safety” ซึ่งเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการขับขี่ที่ปลอดภัยผ่านบุรุษไปรษณีย์ และคนไปรษณีย์ไทยกว่า 38,000 คน เป็นต้นแบบกับผู้ใช้รถใช้ถนนได้ตระหนักถึงพฤติกรรมการขับขี่ที่ปลอดภัยการปฏิบัติตามกฎจราจร พร้อมทั้งส่งต่อองค์ความรู้ที่สำคัญไปยังผู้ใช้เส้นทางคมนาคม ผู้ใกล้ชิด ให้มีแนวปฏิบัติเดียวกัน โดยดำเนินการผ่านทั้งการเป็นผู้ขับขี่ที่ถูกต้อง การให้ความรู้ผ่านสื่อต่างๆ เช่น สติ๊กเกอร์ขับขี่ปลอดภัย สื่อออนไลน์  โซเชียลมีเดีย ที่มีความเหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

     โดยบุรุษไปรษณีย์ 1 คน สามารถบอกต่อได้ 10 คน เช่น ตอนไปส่งสิ่งของที่บ้าน ลูกค้า เพื่อเชิญชวนให้ร่วมใช้รถใช้ถนนกันด้วยความสุภาพและระมัดระวังเพื่อเป็นการปลุกจิตสำนึกที่ดีด้านวินัยจราจรและช่วยเพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตั้งเป้าว่าจะมีประชาชนที่ได้รับใบปลิวนี้อย่างน้อย 200,000 คนทั่วประเทศ

      “ช่วงที่ผ่านมา บุรุษไปรษณีย์ทั่วประเทศกว่า 20,000 คน ได้เข้าร่วมฝึกอบรมหลักสูตรเพื่อนแท้ร่วมทาง Road Safety เพื่อเพิ่มความรู้ความปลอดภัยในการขับขี่และตั้งแต่ในช่วงเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปจะมีการถ่ายทอดความรู้ไปยังผู้ใช้บริการและประชาชน 200,000 คน ผ่านการจัดทำแผ่นพับใบปลิวรณรงค์ขับขี่ขนาด A5 จำนวน 200,000 แผ่น โดยบุรุษไปรษณีย์จะนำใบปลิวประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ใช้บริการในพื้นที่นำจ่ายของแต่ละคน ส่งไปพร้อมกับจดหมายพัสดุฯ และแนะนำให้ลูกค้าประชาชนร่วมขับขี่ปลอดภัยไปกับไปรษณีย์ไทย รวมถึงเชิญชวนให้ร่วมสแกนคิวอาร์โค้ดด้านหลังแผ่นพับใบปลิวฯ เพื่อตอบคำถามและลุ้นรับของรางวัลพิเศษ

     การดำเนินงานเพื่อส่งเสริมการขับขี่อย่างปลอดภัย ยังคงเป็นประเด็นที่ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG)ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม โดยปัจจุบันมีการปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด เช่น การสวมหมวกนิรภัยตลอดการปฏิบัติงาน การไม่ใช้ความเร็วเกินกำหนด  รวมถึงการตรวจสอบอุปกรณ์และความพร้อมของตัวรถก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ โดยนอกเหนือจากการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนยังได้เป็นต้นแบบให้กับกลุ่มอาชีพที่ต้องใช้รถใช้ถนนด้วยเช่นกัน เช่น วินมอเตอร์ไซค์ ไรเดอร์ พนักงานขับรถบรรทุก รวมถึงมีการทดสอบและทบทวนความรู้โดยสถาบันขนส่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง

RELATED NEWS

ทรู คอร์ปอเรชั่น ติดตั้งพร้อมเปิดใช้งานสถานีฐานมือถือ “ภูมะเขือกลาง–ภูมะเขือบน” เสริมสัญญาณ 5G/4G/3G รองรับภารกิจเจ้าหน้าที่รัฐและกองทัพไทย 12 กันยายน 2568 – ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับกองทัพไทย และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประกาศความพร้อมในการเปิดใช้งานสถานีฐานมือถือที่ “ภูมะเขือกลางและภูมะเขือบน” โดยเครือข่ายที่ติดตั้งครอบคลุมการใช้งาน 5G, 4G และ 3G รองรับการสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐและกองทัพที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ภูมะเขือ ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเดิมไม่มีสัญญาณสื่อสารมือถือ ทำให้การติดต่อสื่อสารของหน่วยงานเป็นไปอย่างจำกัด ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงได้เร่งดำเนินการตามคำขอของภาครัฐในการเพิ่มสัญญาณเพื่อภารกิจความมั่นคงและปฏิบัติควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมเสาสัญญาณของ กสทช. “ภูมะเขือ” ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่กองทัพไทยใช้ปฏิบัติภารกิจเพื่อป้องกันอธิปไตยของชาติและรักษาความมั่นคง ดังนั้น การขยายสัญญาณมือถือของทรูในครั้งนี้ ได้นำ 5G, 4G, 3G มุ่งเน้นการสนับสนุนการสื่อสารเชื่อมต่อระหว่างหน่วยปฏิบัติการ การรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ การส่งข้อมูลภาพและวิดีโอ รวมถึงการดูแลและซ่อมบำรุงสถานีฐานเพื่อให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐและกองทัพไทย นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้สนับสนุนกองทัพไทยในการรักษาความมั่นคงชายแดนอย่างเต็มที่ หลังได้รับการประสานจากกองทัพ และ สำนักงาน กสทช. แจ้งว่าพื้นที่ภูมะเขือไม่มีสัญญาณสื่อสารมือถือ ทำให้การติดต่อสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐเป็นไปอย่างยากลำบาก ทีมงานทรูจึงได้เข้าไปร่วมสำรวจพื้นที่กับหน่วยงานภาครัฐ ประสานงานกับการไฟฟ้าภูมิภาค จนสามารถดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณมือถือบนเสาไฟฟ้าในพื้นที่ภูมะเขือ ทั้งบริเวณกลางและบนยอด ทำให้ล่าสุดหน่วยงานภาครัฐและกองทัพไทยสามารถสื่อสารผ่านมือถือทั้ง 5G, 4G, 3G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ที่กองทัพไทยประจำการเท่านั้น ขณะเดียวกัน เราได้ระงับสัญญาณมือถือในพื้นที่ชายแดนตามมาตรการที่ตกลงร่วมกับภาครัฐ และ กสทช. อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้สัญญาณทรูถูกนำไปใช้นอกประเทศ และลดความเสี่ยงจากการใช้สัญญาณผิดวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยของประชาชน” นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยระบบสารสนเทศ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้ร่วมมือในการขยายสัญญาณสื่อสารเพื่อสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐและกองทัพที่ปฏิบัติภารกิจบนพื้นที่ภูมะเขือ โดยติดตั้งสถานีฐานใหม่ให้ครอบคลุมการใช้งานด้วยคลื่น 700 MHz และ 900 MHz ซึ่งรองรับทั้ง 5G, 4G และ 3G พร้อมกำหนดพื้นที่ให้สัญญาณครอบคลุมเฉพาะบริเวณที่เจ้าหน้าที่ประจำการ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” การติดตั้งสถานีฐานบนภูมะเขือครั้งนี้ เป็นความร่วมมือที่ต่อเนื่องในการพัฒนาความครอบคลุมของสัญญาณ ตามคำขอจากภาครัฐ และ กสทช. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้สนับสนุนการเพิ่มสัญญาณแบบเร่งด่วน โดยปรับทิศทางการส่งสัญญาณจากเสาที่ผามออีแดงมายังภูมะเขือ การดำเนินการครั้งนั้นใช้คลื่น 700 MHz ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการกระจายสัญญาณระยะไกลจากผามออีแดง ให้บริการทั้ง 5G และ 4G และยังเสริมด้วยคลื่น 2100 MHz เพื่อให้บริการ 4G และ 3G ครอบคลุมพื้นที่สูงบนภูมะเขือได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เสาสัญญาณต่างๆ ในพื้นที่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ทรู คอร์ปอเรชั่นยังนำระบบ AI-CODC (Cell Outage Detection & Compensation) มาใช้เพื่อดูแลสถานีฐาน โดยระบบนี้เป็น Self Healing Network ใช้ปัญญาประดิษฐ์บริหารจัดการเครือข่ายและมอนิเตอร์ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งทำหน้าที่ปรับจูนสัญญาณอัตโนมัติจากสถานีฐานอื่นที่ใกล้เคียง เพื่อมาชดเชยสัญญาณเครือข่ายในพื้นที่ที่สถานีฐานแห่งนั้นประสบปัญหา ทำให้สัญญาณยังคงครอบคลุมการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงและเพื่อความปลอดภัย แต่ยังคงคุณภาพการให้บริการที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่

Follow Us

Lasted News

ทรู คอร์ปอเรชั่น ติดตั้งพร้อมเปิดใช้งานสถานีฐานมือถือ “ภูมะเขือกลาง–ภูมะเขือบน” เสริมสัญญาณ 5G/4G/3G รองรับภารกิจเจ้าหน้าที่รัฐและกองทัพไทย 12 กันยายน 2568 – ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับกองทัพไทย และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประกาศความพร้อมในการเปิดใช้งานสถานีฐานมือถือที่ “ภูมะเขือกลางและภูมะเขือบน” โดยเครือข่ายที่ติดตั้งครอบคลุมการใช้งาน 5G, 4G และ 3G รองรับการสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐและกองทัพที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ภูมะเขือ ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเดิมไม่มีสัญญาณสื่อสารมือถือ ทำให้การติดต่อสื่อสารของหน่วยงานเป็นไปอย่างจำกัด ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงได้เร่งดำเนินการตามคำขอของภาครัฐในการเพิ่มสัญญาณเพื่อภารกิจความมั่นคงและปฏิบัติควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมเสาสัญญาณของ กสทช. “ภูมะเขือ” ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่กองทัพไทยใช้ปฏิบัติภารกิจเพื่อป้องกันอธิปไตยของชาติและรักษาความมั่นคง ดังนั้น การขยายสัญญาณมือถือของทรูในครั้งนี้ ได้นำ 5G, 4G, 3G มุ่งเน้นการสนับสนุนการสื่อสารเชื่อมต่อระหว่างหน่วยปฏิบัติการ การรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ การส่งข้อมูลภาพและวิดีโอ รวมถึงการดูแลและซ่อมบำรุงสถานีฐานเพื่อให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐและกองทัพไทย นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้สนับสนุนกองทัพไทยในการรักษาความมั่นคงชายแดนอย่างเต็มที่ หลังได้รับการประสานจากกองทัพ และ สำนักงาน กสทช. แจ้งว่าพื้นที่ภูมะเขือไม่มีสัญญาณสื่อสารมือถือ ทำให้การติดต่อสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐเป็นไปอย่างยากลำบาก ทีมงานทรูจึงได้เข้าไปร่วมสำรวจพื้นที่กับหน่วยงานภาครัฐ ประสานงานกับการไฟฟ้าภูมิภาค จนสามารถดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณมือถือบนเสาไฟฟ้าในพื้นที่ภูมะเขือ ทั้งบริเวณกลางและบนยอด ทำให้ล่าสุดหน่วยงานภาครัฐและกองทัพไทยสามารถสื่อสารผ่านมือถือทั้ง 5G, 4G, 3G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ที่กองทัพไทยประจำการเท่านั้น ขณะเดียวกัน เราได้ระงับสัญญาณมือถือในพื้นที่ชายแดนตามมาตรการที่ตกลงร่วมกับภาครัฐ และ กสทช. อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้สัญญาณทรูถูกนำไปใช้นอกประเทศ และลดความเสี่ยงจากการใช้สัญญาณผิดวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยของประชาชน” นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยระบบสารสนเทศ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้ร่วมมือในการขยายสัญญาณสื่อสารเพื่อสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐและกองทัพที่ปฏิบัติภารกิจบนพื้นที่ภูมะเขือ โดยติดตั้งสถานีฐานใหม่ให้ครอบคลุมการใช้งานด้วยคลื่น 700 MHz และ 900 MHz ซึ่งรองรับทั้ง 5G, 4G และ 3G พร้อมกำหนดพื้นที่ให้สัญญาณครอบคลุมเฉพาะบริเวณที่เจ้าหน้าที่ประจำการ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” การติดตั้งสถานีฐานบนภูมะเขือครั้งนี้ เป็นความร่วมมือที่ต่อเนื่องในการพัฒนาความครอบคลุมของสัญญาณ ตามคำขอจากภาครัฐ และ กสทช. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้สนับสนุนการเพิ่มสัญญาณแบบเร่งด่วน โดยปรับทิศทางการส่งสัญญาณจากเสาที่ผามออีแดงมายังภูมะเขือ การดำเนินการครั้งนั้นใช้คลื่น 700 MHz ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการกระจายสัญญาณระยะไกลจากผามออีแดง ให้บริการทั้ง 5G และ 4G และยังเสริมด้วยคลื่น 2100 MHz เพื่อให้บริการ 4G และ 3G ครอบคลุมพื้นที่สูงบนภูมะเขือได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เสาสัญญาณต่างๆ ในพื้นที่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ทรู คอร์ปอเรชั่นยังนำระบบ AI-CODC (Cell Outage Detection & Compensation) มาใช้เพื่อดูแลสถานีฐาน โดยระบบนี้เป็น Self Healing Network ใช้ปัญญาประดิษฐ์บริหารจัดการเครือข่ายและมอนิเตอร์ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งทำหน้าที่ปรับจูนสัญญาณอัตโนมัติจากสถานีฐานอื่นที่ใกล้เคียง เพื่อมาชดเชยสัญญาณเครือข่ายในพื้นที่ที่สถานีฐานแห่งนั้นประสบปัญหา ทำให้สัญญาณยังคงครอบคลุมการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงและเพื่อความปลอดภัย แต่ยังคงคุณภาพการให้บริการที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่

Scroll to Top