บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เดินหน้ายกระดับบริการหลังการขาย นำเทคโนโลยีสู่กระบวนการบริหารจัดการอะไหล่ กับเป้าหมาย “ทันใจ..ทันใช้” ด้วยบริการจัดส่งอะไหล่เร่งด่วนและการกระจายอะไหล่สู่ศูนย์บริการทั่วประเทศไม่เกิน 3 วันทำการ* พร้อมชูระบบ TRACK & TRACE ที่สามารถตรวจสอบสถานะและติดตามอะไหล่จากคลังสู่ศูนย์บริการฯ ได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มความแม่นยำในการนัดหมาย และส่งมอบรถที่พร้อมใช้งานถึงมือลูกค้าด้วยความรวดเร็ว อีกทั้งเตรียมความพร้อมในการดูแลลูกค้ารถยนต์เอ็มจีทุกรุ่นที่จัดจำหน่ายในประเทศไทย ด้วยการขยายพื้นที่คลังอะไหล่แห่งที่สองย่านบางนา–ตราด เพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บได้มากกว่า 1,000,000 ชิ้น กว่า 20,000 รายการ
ระบบ TRACK & TRACE ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่อยู่ภายใต้ Warehouse Management System หรือ ระบบ WMS ที่ถูกใช้ในธุรกิจการขนส่งชั้นนำ ปัจจุบันศูนย์บริการฯ เอ็มจี สามารถติดตามสถานะ ตรวจสอบ และคำนวณระยะเวลาการจัดส่งอะไหล่จากคลังสู่ศูนย์บริการฯ ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยให้การนัดหมายส่งมอบรถให้กับลูกค้ามีความแม่นยำมากขึ้น และสามารถติดตามอะไหล่ได้ในทุกขั้นตอน อีกทั้งการจัดส่งอะไหล่ทั่วประเทศสามารถดำเนินการได้ภายใน 3 วันทำการ* และมีบริการการจัดส่งอะไหล่ภายใน 24 ชั่วโมงสำหรับกรณีเร่งด่วน ส่งผลให้การซ่อมบำรุงรถยนต์ให้กลับคืนสู่สภาพพร้อมใช้งานทำได้รวดเร็วมากขึ้นด้วย
พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนอะไหล่ การเพิ่มพื้นที่คลังอะไหล่ (MG’s Part Distribution Centre) จึงเป็นหนึ่งในแผนพัฒนา จากเดิมที่มีเพียงแห่งเดียวในจังหวัดชลบุรีบนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร จึงขยายพื้นที่คลังอะไหล่แห่งที่ 2 ย่านบางนา–ตราด อีกกว่า 15,000 ตารางเมตร รวมทั้งสองแห่งกว่า25,000 ตารางเมตร เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดเก็บอะไหล่รถยนต์เอ็มจีให้เพียงพอ ครอบคลุมครบทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยและลดระยะเวลารอคอยอะไหล่ให้สั้นลง อีกทั้งระบบTRACK & TRACE จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ผู้จำหน่ายสามารถติดตามอะไหล่ วางแผนการซ่อม และส่งมอบรถที่พร้อมใช้งานให้กับลูกค้าได้เร็วขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าในระยะยาว”