The 1 Point Festival 2025 มหกรรมช้อปแห่งปี เพื่อสมาชิก The 1 เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 12 – 23 กันยายน 2568 เท่านั้น แจกจัดเต็ม 100 ล้านคะแนน พร้อมลุ้นรับทองทุกยอดใช้จ่าย ช้อปได้ทุกที่ ทั้งห้าง ทั้งศูนย์ฯ

     The 1 สานต่อความสำเร็จากปีที่ผ่านมา จัดงาน The 1 Point Festival 2025 – ช้อปจอยๆ ได้พอยท์จัดเต็ม!” เทศกาลแห่งคะแนน The 1 ประจำปีเพื่อสมาชิก The 1 เท่านั้น ผนึกทั่วทั้งกลุ่มเซ็นทรัลและบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน แจกกว่า 100 ล้านคะแนน ทั้งห้าง ทั้งศูนย์ฯ 12 วันจัดเต็ม พร้อมลุ้นรับทองทุกยอดใช้จ่าย เติมเต็มประสบการณ์ช้อปอย่างคุ้มค่าในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด Centralized Loyalty, Scaling Customer Value ย้ำอันดับ 1 ด้าน Loyalty Program ส่งมอบประสบการณ์ที่สุดแห่งความคุ้มค่าและสร้างความผูกพันอย่างยั่งยืนกับสมาชิก The 1 กว่า 22 ล้านคนในปัจจุบัน

    กวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ Managing Director – The 1 กล่าวว่า ด้วยเสียงตอบรับอย่างดีจากสมาชิก The 1 ในปีที่ผ่านมา เราจึงสานต่อความสำเร็จใน The 1 Point Festival 2025 เทศกาลช้อปสุดคุ้มแห่งปี โดยในปีนี้ The 1 แจกกว่า 100 ล้านคะแนนครอบคลุมทั้งการช้อปห้างและช้อปศูนย์ฯ เพื่อมอบประสบการณ์และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวที่มีคุณค่ากับสมาชิกทุกคน โดยมี ‘คะแนน’ เป็นหัวใจหลักในทุกมิติของชีวิตประจำวัน

     สมาชิก The 1 สามารถ สะสม และ แลก คะแนนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างไม่รู้จบ รวมทั้งเป็นการตอกย้ำ Synergy อันแข็งแกร่งของธุรกิจภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล และเครือข่ายพันธมิตร The 1 Ecosystem รวมกว่า 3,000 แบรนด์ และ 32,000 จุดขายทั่วประเทศ รวมถึง Strategic Partner คนสำคัญอย่างบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน

     ชีวิน ปราชญานุพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับ The 1 ในมหกรรมช้อปแห่งปี The 1 Point Festival 2025อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งแน่นอนว่าคะแนน The 1 มีสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า อบคลุมหลากหลายครบทุกไลฟ์สไตล์ จากความสำเร็จในปีก่อนในปีนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุดให้กับสมาชิกบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เรายกระดับความพิเศษให้พิเศษยิ่งขึ้น โดยการมอบคะแนน on-top อีก 4,000 คะแนนเมื่อใช้จ่ายสะสมครบ 15,000 บาทขึ้นไปตลอดรายการ นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิ์ลุ้นคะแนนสูงสุด 500,000 คะแนนและทองคำหนักรวม 2 บาท! ทุก 500 บาท รับ 1 สิทธิ์และรับเพิ่มเป็น 2 สิทธิ์เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน

     ผลสำรวจความคิดเห็นของสมาชิก The 1 อย่างต่อเนื่อง พบว่า “คะแนน” เป็นสิ่งที่สมาชิกให้ความสำคัญสูงสุดเพราะสามารถนำไปใช้แลกส่วนลด คูปองแทนเงินสด และรางวัลพิเศษต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายครอบคลุมทุกสไตล์การใช้ชีวิตและคุ้มค่าในทุกการใช้จ่าย The 1 Point Festival จึงเป็นมากกว่าแคมเปญโปรโมชั่น แต่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระยะยาวกับสมาชิก และตอกย้ำถึงความตั้งใจในการส่งมอบ ‘คุณค่า’ ที่จับต้องได้ในทุกวัน

     เฉพาะสมาชิก The 1 เท่านั้น! สามารถร่วมช้อปในแคมเปญ “The 1 Point Festival”  ตั้งแต่วันที่ 12 – 23กันยายน 2568 นี้ ทั้งในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ เพียงลงทะเบียนรับสิทธิ์บน The 1 APP ก่อนช้อป

     ช้อปห้าง! ร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รับสูงสุด 4,000 คะแนน พร้อมสิทธิ์ลุ้นคะแนนพิเศษ 500,000 คะแนน และทองคำหนักรวม 2 บาท

รับ 800 คะแนน เมื่อช้อปสะสมครบ 3,000 บาท ที่ซูเปอร์สปอร์ต, ท็อปส์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ วีต้า, ท็อปส์แคร์, ออฟฟิศเมท, บีทูเอส, เพ็ทแอนด์มี
รับ 1,600 คะแนน เมื่อช้อปสะสมครบ 5,000 บาท ที่ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, Central APP, โก โฮลเซลล์
รับ 4,000 คะแนน เมื่อช้อปสะสมครบ 15,000 บาท ที่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ร้านค้าในเครือ CMG, ไทวัสดุ, บีเอ็นบี โฮม, ออโต้วัน, เพาเวอร์บาย
พิเศษยิ่งขึ้น สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับคะแนน on-top อีก 4,000 คะแนน เมื่อช้อปสะสมครบ 15,000 บาท
รับสิทธิ์ลุ้น สูงสุด 500,000 คะแนน และทองคำหนักรวม 2 บาท! ทุก 500 บาท รับ 1 สิทธิ์ และรับเพิ่มเป็น 2 สิทธิ์ หากช้อปผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน

    ช้อปศูนย์! รับเพิ่ม 800 คะแนน เมื่อช้อปสะสมครบ 3,000 บาทที่โซนร้านค้า ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อาทิ Zara, Massimo Dutti, Adidas, Shabushi, Starbucks, Lego, Nitori, Owndays, Sparsha, dotLIFE, iStudio และกว่า 1,000 ร้านค้า

RELATED NEWS

ทรู คอร์ปอเรชั่น ติดตั้งพร้อมเปิดใช้งานสถานีฐานมือถือ “ภูมะเขือกลาง–ภูมะเขือบน” เสริมสัญญาณ 5G/4G/3G รองรับภารกิจเจ้าหน้าที่รัฐและกองทัพไทย 12 กันยายน 2568 – ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับกองทัพไทย และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประกาศความพร้อมในการเปิดใช้งานสถานีฐานมือถือที่ “ภูมะเขือกลางและภูมะเขือบน” โดยเครือข่ายที่ติดตั้งครอบคลุมการใช้งาน 5G, 4G และ 3G รองรับการสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐและกองทัพที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ภูมะเขือ ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเดิมไม่มีสัญญาณสื่อสารมือถือ ทำให้การติดต่อสื่อสารของหน่วยงานเป็นไปอย่างจำกัด ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงได้เร่งดำเนินการตามคำขอของภาครัฐในการเพิ่มสัญญาณเพื่อภารกิจความมั่นคงและปฏิบัติควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมเสาสัญญาณของ กสทช. “ภูมะเขือ” ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่กองทัพไทยใช้ปฏิบัติภารกิจเพื่อป้องกันอธิปไตยของชาติและรักษาความมั่นคง ดังนั้น การขยายสัญญาณมือถือของทรูในครั้งนี้ ได้นำ 5G, 4G, 3G มุ่งเน้นการสนับสนุนการสื่อสารเชื่อมต่อระหว่างหน่วยปฏิบัติการ การรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ การส่งข้อมูลภาพและวิดีโอ รวมถึงการดูแลและซ่อมบำรุงสถานีฐานเพื่อให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐและกองทัพไทย นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้สนับสนุนกองทัพไทยในการรักษาความมั่นคงชายแดนอย่างเต็มที่ หลังได้รับการประสานจากกองทัพ และ สำนักงาน กสทช. แจ้งว่าพื้นที่ภูมะเขือไม่มีสัญญาณสื่อสารมือถือ ทำให้การติดต่อสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐเป็นไปอย่างยากลำบาก ทีมงานทรูจึงได้เข้าไปร่วมสำรวจพื้นที่กับหน่วยงานภาครัฐ ประสานงานกับการไฟฟ้าภูมิภาค จนสามารถดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณมือถือบนเสาไฟฟ้าในพื้นที่ภูมะเขือ ทั้งบริเวณกลางและบนยอด ทำให้ล่าสุดหน่วยงานภาครัฐและกองทัพไทยสามารถสื่อสารผ่านมือถือทั้ง 5G, 4G, 3G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ที่กองทัพไทยประจำการเท่านั้น ขณะเดียวกัน เราได้ระงับสัญญาณมือถือในพื้นที่ชายแดนตามมาตรการที่ตกลงร่วมกับภาครัฐ และ กสทช. อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้สัญญาณทรูถูกนำไปใช้นอกประเทศ และลดความเสี่ยงจากการใช้สัญญาณผิดวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยของประชาชน” นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยระบบสารสนเทศ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้ร่วมมือในการขยายสัญญาณสื่อสารเพื่อสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐและกองทัพที่ปฏิบัติภารกิจบนพื้นที่ภูมะเขือ โดยติดตั้งสถานีฐานใหม่ให้ครอบคลุมการใช้งานด้วยคลื่น 700 MHz และ 900 MHz ซึ่งรองรับทั้ง 5G, 4G และ 3G พร้อมกำหนดพื้นที่ให้สัญญาณครอบคลุมเฉพาะบริเวณที่เจ้าหน้าที่ประจำการ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” การติดตั้งสถานีฐานบนภูมะเขือครั้งนี้ เป็นความร่วมมือที่ต่อเนื่องในการพัฒนาความครอบคลุมของสัญญาณ ตามคำขอจากภาครัฐ และ กสทช. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้สนับสนุนการเพิ่มสัญญาณแบบเร่งด่วน โดยปรับทิศทางการส่งสัญญาณจากเสาที่ผามออีแดงมายังภูมะเขือ การดำเนินการครั้งนั้นใช้คลื่น 700 MHz ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการกระจายสัญญาณระยะไกลจากผามออีแดง ให้บริการทั้ง 5G และ 4G และยังเสริมด้วยคลื่น 2100 MHz เพื่อให้บริการ 4G และ 3G ครอบคลุมพื้นที่สูงบนภูมะเขือได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เสาสัญญาณต่างๆ ในพื้นที่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ทรู คอร์ปอเรชั่นยังนำระบบ AI-CODC (Cell Outage Detection & Compensation) มาใช้เพื่อดูแลสถานีฐาน โดยระบบนี้เป็น Self Healing Network ใช้ปัญญาประดิษฐ์บริหารจัดการเครือข่ายและมอนิเตอร์ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งทำหน้าที่ปรับจูนสัญญาณอัตโนมัติจากสถานีฐานอื่นที่ใกล้เคียง เพื่อมาชดเชยสัญญาณเครือข่ายในพื้นที่ที่สถานีฐานแห่งนั้นประสบปัญหา ทำให้สัญญาณยังคงครอบคลุมการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงและเพื่อความปลอดภัย แต่ยังคงคุณภาพการให้บริการที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่

Follow Us

Lasted News

ทรู คอร์ปอเรชั่น ติดตั้งพร้อมเปิดใช้งานสถานีฐานมือถือ “ภูมะเขือกลาง–ภูมะเขือบน” เสริมสัญญาณ 5G/4G/3G รองรับภารกิจเจ้าหน้าที่รัฐและกองทัพไทย 12 กันยายน 2568 – ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับกองทัพไทย และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประกาศความพร้อมในการเปิดใช้งานสถานีฐานมือถือที่ “ภูมะเขือกลางและภูมะเขือบน” โดยเครือข่ายที่ติดตั้งครอบคลุมการใช้งาน 5G, 4G และ 3G รองรับการสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐและกองทัพที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ภูมะเขือ ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเดิมไม่มีสัญญาณสื่อสารมือถือ ทำให้การติดต่อสื่อสารของหน่วยงานเป็นไปอย่างจำกัด ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงได้เร่งดำเนินการตามคำขอของภาครัฐในการเพิ่มสัญญาณเพื่อภารกิจความมั่นคงและปฏิบัติควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมเสาสัญญาณของ กสทช. “ภูมะเขือ” ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่กองทัพไทยใช้ปฏิบัติภารกิจเพื่อป้องกันอธิปไตยของชาติและรักษาความมั่นคง ดังนั้น การขยายสัญญาณมือถือของทรูในครั้งนี้ ได้นำ 5G, 4G, 3G มุ่งเน้นการสนับสนุนการสื่อสารเชื่อมต่อระหว่างหน่วยปฏิบัติการ การรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ การส่งข้อมูลภาพและวิดีโอ รวมถึงการดูแลและซ่อมบำรุงสถานีฐานเพื่อให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐและกองทัพไทย นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้สนับสนุนกองทัพไทยในการรักษาความมั่นคงชายแดนอย่างเต็มที่ หลังได้รับการประสานจากกองทัพ และ สำนักงาน กสทช. แจ้งว่าพื้นที่ภูมะเขือไม่มีสัญญาณสื่อสารมือถือ ทำให้การติดต่อสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐเป็นไปอย่างยากลำบาก ทีมงานทรูจึงได้เข้าไปร่วมสำรวจพื้นที่กับหน่วยงานภาครัฐ ประสานงานกับการไฟฟ้าภูมิภาค จนสามารถดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณมือถือบนเสาไฟฟ้าในพื้นที่ภูมะเขือ ทั้งบริเวณกลางและบนยอด ทำให้ล่าสุดหน่วยงานภาครัฐและกองทัพไทยสามารถสื่อสารผ่านมือถือทั้ง 5G, 4G, 3G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ที่กองทัพไทยประจำการเท่านั้น ขณะเดียวกัน เราได้ระงับสัญญาณมือถือในพื้นที่ชายแดนตามมาตรการที่ตกลงร่วมกับภาครัฐ และ กสทช. อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้สัญญาณทรูถูกนำไปใช้นอกประเทศ และลดความเสี่ยงจากการใช้สัญญาณผิดวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยของประชาชน” นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยระบบสารสนเทศ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้ร่วมมือในการขยายสัญญาณสื่อสารเพื่อสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐและกองทัพที่ปฏิบัติภารกิจบนพื้นที่ภูมะเขือ โดยติดตั้งสถานีฐานใหม่ให้ครอบคลุมการใช้งานด้วยคลื่น 700 MHz และ 900 MHz ซึ่งรองรับทั้ง 5G, 4G และ 3G พร้อมกำหนดพื้นที่ให้สัญญาณครอบคลุมเฉพาะบริเวณที่เจ้าหน้าที่ประจำการ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” การติดตั้งสถานีฐานบนภูมะเขือครั้งนี้ เป็นความร่วมมือที่ต่อเนื่องในการพัฒนาความครอบคลุมของสัญญาณ ตามคำขอจากภาครัฐ และ กสทช. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้สนับสนุนการเพิ่มสัญญาณแบบเร่งด่วน โดยปรับทิศทางการส่งสัญญาณจากเสาที่ผามออีแดงมายังภูมะเขือ การดำเนินการครั้งนั้นใช้คลื่น 700 MHz ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการกระจายสัญญาณระยะไกลจากผามออีแดง ให้บริการทั้ง 5G และ 4G และยังเสริมด้วยคลื่น 2100 MHz เพื่อให้บริการ 4G และ 3G ครอบคลุมพื้นที่สูงบนภูมะเขือได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เสาสัญญาณต่างๆ ในพื้นที่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ทรู คอร์ปอเรชั่นยังนำระบบ AI-CODC (Cell Outage Detection & Compensation) มาใช้เพื่อดูแลสถานีฐาน โดยระบบนี้เป็น Self Healing Network ใช้ปัญญาประดิษฐ์บริหารจัดการเครือข่ายและมอนิเตอร์ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งทำหน้าที่ปรับจูนสัญญาณอัตโนมัติจากสถานีฐานอื่นที่ใกล้เคียง เพื่อมาชดเชยสัญญาณเครือข่ายในพื้นที่ที่สถานีฐานแห่งนั้นประสบปัญหา ทำให้สัญญาณยังคงครอบคลุมการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงและเพื่อความปลอดภัย แต่ยังคงคุณภาพการให้บริการที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่

Scroll to Top