Samsung Galaxy A56 5G สมาร์ตโฟนระดับกลาง ใช้งานครบครัน งบหมื่นกลางๆ ได้ทั้ง VDO ถ่ายภาพ และโซเชียล ครบ

      Samsung Galaxy A56 5G เป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางที่เน้นความคุ้มค่าและทันสมัย ด้วยจุดเด่น เช่น การถ่าย VDO ระดับ 4K, การชาร์จไว, หน้าจอสวย, ชิปแรง, อัปเดตยาวนาน 6 ปี และฟีเจอร์ AI ที่หลากหลาย เหมาะกับผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนใช้งานได้ครบครันในงบหมื่นกลางๆโดยเฉพาะสายถ่ายรูป โซเชียลมีเดีย และคนที่มองหาความทนทานในระยะยาว ถือเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งในตลาดระดับกลางของปี 2568 เลยก็ว่าได้

ดีไซน์และการออกแบบ

     Galaxy A56 5G ใช้จอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2340 x 1080 พิกเซล) รีเฟรชเรท 120Hz ความสว่างสูงสุด 1200 nits  ป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus+ ขอบจอบางลงกว่ารุ่นก่อนหน้า ให้ประสบการณ์การรับชมที่คมชัด สีสันสดใส และลื่นไหล เหมาะกับการดูวิดีโอและเล่นเกม ขอบจอบางและกล้องหน้าขนาดเล็กทำให้หน้าจอดูเต็มตา

     ถัดขึ้นมาในส่วนด้านบนของหน้าจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 12MP พร้อมรูรับแสง f/2.2 แบบเจาะรู (Punch-hole) อยู่กึ่งกลางด้านบนของหน้าจอ อาจดูเหมือนลดสเปกจากรุ่นก่อนหน้าแต่การเพิ่มฟีเจอร์ AI เช่น  features Ai เช่น Auto Trim, Best face, Edit suggestion และCircle to search รวมถึงการถ่ายวิดีโอ 4K ทำให้เหมาะกับผู้ใช้ที่เหมาะกับผู้ใช้งานที่ชอบถ่ายวิดีโอคมๆ และสร้างคอนเทนต์สั้นๆ  อย่างมีคุณภาพ โดยรวมดีขึ้นจาก A55 5G ในแง่การใช้งานจริงแม้จะไม่ใช่จุดเด่นหลักเมื่อเทียบกับกล้องหลัง (50MP + OIS) เหมาะกับสายโซเชียลมีเดียที่ต้องการความสะดวกและภาพสวยแบบไม่ต้องแต่งเยอะ

     ด้านบนตัวเครื่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน 1 ตัว และจะมีลำโพงเสียงอีกหนึ่งตัวที่ทำงานร่วมกับลำโพงด้านล่างตัวเครื่องอยู่ จึงทำให้เสียงเป็นระบบสเตอริโอ

     ด้านซ้ายตัวเครื่องจะเห็นแค่ขอบอะลูมิเนียมขัดเงา (Aluminum Frame) และความบางของตัวเครื่องเท่านั้น ไม่มีปุ่มหรือช่องใดๆอยู่เลย

     ด้านขวาตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่มเสียง/ลดเสียง รวมถึงปุ่มเปิด/ปิดเครื่องอยู่ ซึ่งทั้งสองปุ่มนี้จะมีการดีไซน์ให้นูนขึ้นมาจากขอบเครื่องพอสมควร ทำให้การสัมผัสได้ง่ายขึ้น

 

     ด้านล่างตัวเครื่องจะมีถาดซิมการ์ดรองรับ Dual SIM เป็นแบบ nanoSIM + nanoSIM ไมโครโฟนหลัก 1 ตัว ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน 1 ตัว พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C 2.0 อีก 1 พอร์ต รวมถึงลำโพงเสียงอีก 1 ตัว ทำงานร่วมกับตัวด้านบนเพื่อให้มีเสียงแบบสเตอริโอและมีมิติมากขึ้น

     ด้านหลังตัวเครื่องจะเป็นกระจก ซึ่งอัปเกรดจากพลาสติกในรุ่นก่อนหน้า (A55 5G) เป็นกระจกที่มีผิวสัมผัสเรียบลื่นและสะท้อนแสงสวยงาม อาจใช้ Gorilla Glass Victus+

    ถัดมาเป็นส่วนของกล้องหลังของ Galaxy A56 5G จะมีการดีไซน์และการวางกล้องคล้ายๆ กับรุ่นเรือธงอย่าง Galaxy S25 Series และมีกล้องด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ 50MP (หลัก, OIS) + 12MP (Ultrawide) + 5MP (Macro) รองรับการถ่าย VDO 4K ทุกเลนส์ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยถ่ายวิดีโอได้สูงสุดระดับ 4K 30fps และยังมีการอัปเกรดซอฟแวร์ใหม่ช่วยในเรื่องการจัดการแสง และสีสันที่ดีขึ้น จะถ่ายย้อนแสง ในร่ม กลางแจ้ง ก็ยังให้สีสันที่คมชัดสมจริง ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง 

ตัวอย่างรูปถ่าย

      

ฟีเจอร์ AI ที่เด่นใน Galaxy A56 5G

 

1. Circle to Search : ฟีเจอร์นี้พัฒนาร่วมกับ Google ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลจากสิ่งที่เห็นบนหน้าจอได้ทันที โดยไม่ต้องพิมพ์หรือออกจากแอป

วิธีใช้:

1. กดปุ่มโฮมค้างไว้ (หรือใช้ท่าทางตามการตั้งค่า)

2. วงกลมหรือขีดเส้นรอบวัตถุ/ข้อความบนหน้าจอ เช่น รูปภาพสินค้าในแอปโซเชียลมีเดีย หรือคำในบทความ

3. ระบบจะเชื่อมต่อกับ Google Search เพื่อแสดงผลลัพธ์ เช่น รายละเอียดสินค้า ร้านค้าที่ขาย หรือข้อมูลเพิ่มเติม

ประโยชน์: เหมาะสำหรับคนที่ชอบช็อปปิ้งออนไลน์หรือต้องการข้อมูลด่วน เช่น เห็นรองเท้าในInstagram แล้วอยากรู้ราคาหรือรุ่นทันที ทำงานได้ทั้งภาพและข้อความ ใช้งานง่ายไม่ต้องสลับแอป

ข้อสังเกต: ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อให้ฟีเจอร์นี้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ

2. Object Eraser : ฟีเจอร์แก้ไขภาพที่ใช้ AI ลบวัตถุไม่พึงประสงค์ออกจากรูปถ่ายเช่น คนที่เดินผ่านฉากหลัง หรือเสาไฟที่บังวิว

วิธีใช้:

1. เปิดรูปในแอป Gallery > เลือกแก้ไข” > ใช้เครื่องมือ Object Eraser

2. วงกลมหรือระบายบริเวณวัตถุที่ต้องการลบ

3. AI จะวิเคราะห์และเติมพื้นหลังให้เนียนโดยอัตโนมัติ

ประสิทธิภาพ:

     ทำงานได้ดีกับวัตถุที่มีขอบชัดเจนและพื้นหลังไม่ซับซ้อน (เช่น ท้องฟ้าใส หรือสนามหญ้า)

ในฉากที่ซับซ้อน (เช่น ฝูงชน) อาจเห็นรอยต่อหรือการเติมที่ไม่สมบูรณ์ 100%

จุดเด่น: ไม่ต้องใช้แอปแต่งรูปเพิ่มเติม ทำได้ในเครื่องเลย เหมาะกับการแก้ไขภาพก่อนโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย

ข้อจำกัด: ความแม่นยำขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของภาพและแสง คาดว่าใน A56 5G จะดีกว่ารุ่นก่อนหน้า (A55) เพราะ NPU ที่แรงขึ้น

3. Best Face : ฟีเจอร์นี้ใช้ AI ปรับใบหน้าในภาพให้ดูดีที่สุด โดยเลือกหน้าที่ดีที่สุดของแต่ละคนจากหลายเฟรมที่ถ่ายต่อเนื่อง

วิธีใช้:

1. ถ่ายภาพหมู่ด้วยโหมด Photo

2. หลังถ่าย AI จะวิเคราะห์ใบหน้าสูงสุด 5 คนในภาพ และแนะนำใบหน้าที่มองกล้อง/ยิ้ม/ไม่หลับตา

3. ผู้ใช้เลือกปรับเปลี่ยนใบหน้าได้ตามต้องการ

ประโยชน์:

แก้ปัญหาการถ่ายภาพหมู่ที่บางคนหลับตาหรือหันไปทางอื่น

เหมาะกับงานปาร์ตี้หรือทริปที่ต้องการภาพหมู่สวยๆ

ความคาดหวัง: จากประสิทธิภาพ NPU ใน Exynos 1580 คาดว่า Best Face จะทำงานเร็วและแม่นยำกว่ารุ่นก่อนหน้า โดยเฉพาะการจดจำใบหน้าในที่แสงน้อย

4. Nightography : โหมดถ่ายภาพกลางคืนที่ใช้ AI ลด noise และเพิ่มความสว่างในภาพ โดยเฉพาะเซลฟีและภาพจากกล้องหลัง

วิธีทำงาน:

1. AI วิเคราะห์แสงในสภาพแวดล้อมและปรับการรับแสง (exposure) อัตโนมัติ

2. รวมหลายเฟรม (multi-frame processing) เพื่อลดจุดรบกวนและเพิ่มรายละเอียด

ผลลัพธ์:

ภาพถ่ายในที่มืดจะสว่างขึ้น สีสันสมจริง และเห็นรายละเอียดมากขึ้น

เซลฟีในที่แสงน้อยจะเนียนตา ลด grain ที่มักพบในสมาร์ทโฟนระดับกลาง

จุดเด่น:

  • กล้องหน้า 12MP ได้รับการปรับปรุงให้ถ่ายกลางคืนดีขึ้นด้วย ฟีเจอร์ Low noise ที่มีในกล้องหน้า ซึ่งหายากในระดับราคานี้
  • กล้องหลัง 50MP พร้อม OIS ยิ่งทำให้การถ่ายภาพกลางคืนมีประสิทธิภาพสูง

ข้อสังเกต: อาจยังสู้รุ่นเรือธงไม่ได้ในแง่ความคมชัดสุดขีด แต่ถือว่าน่าประทับใจสำหรับระดับกลาง

5. Filters (Custom Filter Creation) : ผู้ใช้สามารถสร้างฟิลเตอร์ภาพส่วนตัวโดยใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ภาพตัวอย่าง

วิธีใช้:

1. อัปโหลดภาพที่ชอบในแอป Camera หรือ Gallery

2. AI จะวิเคราะห์โทนสี ความสว่าง และสไตล์ แล้วสร้างฟิลเตอร์ให้ใช้กับภาพอื่นๆ

ประโยชน์:

เหมาะกับคนที่ชอบโพสต์ภาพในโทนเดียวกันบนโซเชียลมีเดีย

ปรับแต่งได้ตามสไตล์ส่วนตัว ไม่ต้องพึ่งแอปอย่าง VSCO หรือ Lightroom

ความคาดหวัง: ฟีเจอร์นี้น่าจะทำงานเร็วและใช้งานง่ายด้วยพลัง NPU ที่สูงขึ้น แต่ความหลากหลายของฟิลเตอร์อาจขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้ด้วย

ประสิทธิภาพของ AI ใน A56 5G

จุดแข็ง:

Exynos 1580 มี NPU ที่แรงกว่ารุ่นก่อนหน้า ทำให้การประมวลผล AI เร็วและแม่นยำขึ้น

การทำงานแบบ on-device ลดการพึ่งพาอินเทอร์เน็ต ช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวและความเร็ว

ข้อจำกัด:

เมื่อเทียบกับรุ่นเรือธงความซับซ้อนของ AI อาจถูกลดทอนลงบ้างเพื่อให้เหมาะกับระดับราคา

บางฟีเจอร์ (เช่น Circle to Search) อาจต้องต่อเน็ต ซึ่งถ้าสัญญาณไม่ดีอาจกระทบประสบการณ์ 

Auto Trim

    ฟีเจอร์ Auto Trim ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน Samsung Galaxy A56 5G เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ AI ภายใต้คอนเซปต์ “Awesome Intelligence” ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดต่อวิดีโอได้ง่ายและสะดวกขึ้น โดยใช้พลังประมวลผลของ AI บนชิป Exynos 1580

วิธีการทำงาน

1. การวิเคราะห์อัจฉริยะ: AI จะสแกนวิดีโอทั้งคลิปเพื่อหาช่วงที่มีการเคลื่อนไหว, เสียง, หรือเหตุการณ์สำคัญ (เช่น การพูด, การเคลื่อนที่ของวัตถุ) และแยกแยะส่วนที่น่าเบื่อหรือไม่จำเป็นออก

2. ตัดต่ออัตโนมัติ: หลังจากวิเคราะห์ AI จะตัดส่วนที่ไม่สำคัญออก และเชื่อมต่อคลิปที่เหลือให้ลื่นไหล โดยพยายามรักษาความต่อเนื่องของเนื้อหา

3. ปรับแต่งเพิ่มเติม (ถ้าต้องการ): ผู้ใช้สามารถดูผลลัพธ์และปรับแก้ไขเพิ่มเติมได้ในแอป Gallery หรือแอปตัดต่อของ Samsung หากต้องการเก็บบางส่วนกลับมาหรือตัดเพิ่ม

วิธีใช้งาน

1. ถ่ายวิดีโอด้วยกล้องของ Galaxy A56 5G หรือนำเข้าวิดีโอที่มีอยู่

2. เปิดวิดีโอในแอป Gallery แล้วเลือกตัวเลือกสร้าง > ภาพยนตร์

3. เลือกฟีเจอร์ Auto Trim (อยู่มุมซ้ายล่าง)

4. รอให้ AI ประมวลผลและตัดต่อให้เสร็จ (ใช้เวลาไม่นาน ขึ้นอยู่กับความยาวของวิดีโอ)

5. ดูตัวอย่าง และกดบันทึกหรือปรับแต่งเพิ่มเติมตามต้องการ

ประโยชน์ของ Auto Trim

1. ประหยัดเวลา: เหมาะสำหรับคนที่ไม่ถนัดตัดต่อวิดีโอ หรือต้องการคลิปสั้น ไว้อัปโหลดลงโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว

2. ใช้งานง่าย: ไม่ต้องมีทักษะตัดต่อ แค่กดปุ่มเดียว AI จัดการให้หมด

3. ผลลัพธ์ดีขึ้น: ช่วยให้วิดีโอดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก เช่นช่วงที่กล้องสั่นหรือไม่มีอะไรเกิดขึ้น

4. เหมาะกับสายคอนเทนต์: ใช้ได้ดีกับ vlog, คลิปสั้น TikTok, หรือ Instagram Reels

ประสิทธิภาพการทำงานของ Galaxy A56 5G

     ชิปเซ็ต Exynos 1580 ที่ใช้ใน Samsung Galaxy A56 5G เป็นชิปเซ็ตระดับกลางรุ่นใหม่จากSamsung กระบวนการผลิต 4nm EUV FinFET (รุ่นที่ 3 ของ Samsung) ประหยัดพลังงานและระบายความร้อนดีขึ้น เป็น CPU แบบ 8 คอร์ แบบ Tri-cluster ใช้ GPU Xclipse 540 (สถาปัตยกรรม RDNA 3 จาก AMD) และมี NPU พลังประมวลผล AI 14.7 TOPS (Trillion Operations Per Second) รองรับ LPDDR5 RAM และ UFS 3.1 Storage ซึ่ง CPU และ GPU ตัวนี้แรงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและงานหนักปานกลาง เช่น เล่นเกมกราฟิกปานกลาง(PUBG, COD Mobile) หรือตัดต่อวิดีโอเบื้องต้น

     Exynos 1580 เป็นชิปเซ็ตระดับกลางที่ยกระดับจาก Exynos 1480 อย่างเห็นได้ชัด ทั้งในแง่พลังประมวลผล (CPU/GPU) การจัดการพลังงาน และความสามารถ AI เหมาะกับ:

การใช้งานทั่วไป: ลื่นไหล 100% (โซเชียลมีเดีย, ดูวิดีโอ, ท่องเว็บ)

การเล่นเกม: ดีในระดับกลาง (กราฟิกปานกลางถึงสูง) แต่ไม่เหมาะกับเกมหนักมาก นาน

งาน AI: รองรับฟีเจอร์ Galaxy AI ได้ดีเยี่ยมในราคานี้

อายุการใช้งาน: อัปเดตระบบปฎิบัติการ 6 เวอร์ชั่น และ ระบบรักษาความปลอดภัย 6 ปี

     Samsung Galaxy A56 5G มาด้วยราคา : 13,999 สำหรับความจุ 8/128GB และ 15,999 สำหรับความจุ 12/256GB

    สำหรับใครที่อยากจะเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ในช่วงนี้ Samsung Galaxy A56 5G  มีโปรโมชันช่วงเปิดตัว 14 มี.. 68 – 6 เม.. 68 อัพแรม/ความจุ ฟรี จ่ายในราคาเพียง 13,999 เท่าเดิม และยังเข้าร่วม Samsung Finance+ ดาวน์เริ่มต้น 0 บาท รวมถึง สามารถแลกซื้อ Galaxy Fit3 ลดไปอีก 300 บาท สามารถซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ บอกเลยว่า รุ่นนี้ เป็นรุ่นที่เราอยากให้คุณมี !!!

Scroll to Top